พลังงานทางเลือกใหม่ พลังงานชีวภาพ ไบโอดีเซล| Green Innovation-คนเก่งคนดี.com

นานนับศตวรรษที่น้ำมันดิบเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์และนับวันยิ่งมีความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น ทว่าปัญหาวิกฤติราคาน้ำมันตลอดจนสถานะการเป็นพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป รวมทั้งเป็นสาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำให้หลายประเทศทั่วโลกคิดค้นพลังงานทางเลือกใหม่ๆ โดยเฉพาะพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นพลังงานทางเลือกขึ้นมาทดแทน และหนึ่งในนั้นคือ พลังงานจากพืช หรือพลังงานสะอาด

พลังงานชีวภาพสามารถเป็นหนึ่งในวิธีการอันยั่งยืนในการแก้ปัญหาโลกร้อน โดยสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากขนส่งมวลชนบนถนน โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับการขนส่งที่มีประสิทธิภาพทางพลังงาน

คำว่า “ไบโอดีเซล” หมายถึงเชื้อเพลิงดีเซล มีลักษณะเป็นเชื้อเพลิงเหลว ที่ผลิตได้จากทรัพยากรหมุนเวียนตามธรรมชาติ เป็นพลังงานสะอาดที่น่าสนใจมากๆ

ผลสำเร็จจากโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติและโครงการต่อเนื่องต่างๆโดย ปตท

แม้โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติจะประสบความสำเร็จ รวมพื้นที่ปลูกป่าทั้งหมด 1,033, 148 ไร่ ใน 48 จังหวัดทั่วทุกภาคของประเทศ โดยจำแนกเป็นป่าบก 945,008 ไร่ ป่าชายเลน 63,554 ไร่ ป่าพรุ 24,286 ไร่ และป่าชายหาด 300 ไร่  ทว่าป่าจะอยู่ได้อย่างไร หากไม่มีใครช่วยกันดูแลเพราะพื้นที่ดังกล่าวยังเต็มไปด้วยความยากจนดังนั้นเพื่อเป็นหลักประกันว่าผืนป่าของในหลวงจะเติบโตเป็นป่าถาวร

ด้วยเหตุนี้ ปตท. จึงได้ดำเนินโครงการเสริมที่เกี่ยวข้องกับการโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ อีกหลายโครงการโดยมุ่งสร้างจิตสำนึกของราษฎรรอบพื้นที่ในโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ให้เกิดความรัก ปกป้อง หวงแหนป่า ควบคู่กับการพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรรอบพื้นที่โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ให้เป็นชุมชนที่เข้มแข็ง โครงการเสริมเหล่านี้อยู่บนพื้นฐานของปรัชญา

“คนอยู่ได้ ป่าอยู่รอด คนกับป่าผูกพันพึ่งพิงเอื้อประโยชน์กันและกัน”

โครงการยุวชน ปตท. รักษาป่า เป็นหนึ่งในโครงการเสริมในโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ โดยการนำเยาวชนเข้าร่วมโครงการ รุ่นละ 100-300 คน จาก 3-5 โรงเรียนรอบพื้นที่โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ  ไปเข้าค่ายเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ รวมทั้งให้ฝึกปฎิบัติในพื้นที่ในโครงการแปลงปลูกป่า  ด้วยการปลูกและบำรุงรักษาต้นไม้ด้วยมือน้อยๆ แต่หัวใจเปี่ยมด้วยจิตสำนึกอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เป็นระยะเวลาต่อเนื่องอย่างน้อย 1 ปี พร้อมทั้ง ปตท.สนับสนุนโรงเรียนที่เข้าร่วม โดยการสนับสนุนโครงการต่างๆ ของโรงเรียน เช่น โครงการพืชผักสวนครัว  โครงการอาหารกลางวัน หรืออื่นๆ ที่มีความจำเป็นต่อโรงเรียน รวมทั้งสนับสนุนที่โรงเรียนขาดแคลน ซึ่งนอกจากเป็นการปลูกต้นกล้าแห่งความรักความผูกพันต่อผืนป่าให้กับอนาคตของชาติแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนการเรียนรู้ในการสร้างอาชีพพื้นฐานให้กับเยาวชนของชาติด้วย

โครงการฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันไฟป่า ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการต่อเนื่องของโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เป็นการฝึกอบรมแก่ผู้นำชุมชน และผู้แทนชุมชน รุ่นละ 100-130 คน ให้มีความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ รู้จักวิธีป้องกันระวังไฟป่าและควบคุมไฟป่า โดยมอบอุปกรณ์ป้องกันไฟป่าไว้ประจำหมู่บ้าน เพื่อให้ชุมชนช่วยกันควบคุมไฟป่าซึ่งอาจเกิดขึ้น เมื่อพวกเขาผ่านการอบรมก็จะมาเป็นอาสาสมัครป้องกันไฟป่าที่ผ่านการอบรม นอกจากจะจัดเวรยามป้องกันไฟป่าตลอด 24  ชั่วโมงในฤดูไฟป่า และสามารถป้องกันไฟป่าอย่างได้ผลในระดับหนึ่ง

โครงการธงพิทักษ์ป่า  เป็นหนึ่งในโครงการเสริมรักษาป่าระยะยาว ซึ่งเป็นโครงการที่เข้าไปสนับสนุนโครงการฝึกอบรม “ราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า”  (รสทป.) ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดย ปตท. จัดทำร่วมกับ กองทัพภาค กรมป่าไม้ หน่วยงานฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  อบรมให้ความรู้แก่ราษฎร ในหมู่บ้านรอบพื้นที่โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ  หมู่บ้านละ 100-150 คน ให้ทราบถึงความจำเป็นในการรักษาความสมดุลย์ของป่าไม้ รู้จักใช้ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าอย่างถูกวิธี สร้างสามัญสำนึกและทัศนคติที่ดีให้แก่ราษฎร และผลักพันให้จัดตั้งองค์กรที่เข้มแข็งเพื่อพิทักษ์รักษาป่าไม้ในพื้นที่ หากสามารถจัดตั้งองค์กรดูแลรักษาป่าไม้อย่างได้ผลจะได้รับการพิจารณาให้เข้ารับพระราชทาน “ธงพิทักษ์ป่า เพื่อรักษาชีวิต” จากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

โครงการศึกษาวิจัย (เชิงปฎิบัติการ) การจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการหารูปแบบของการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนในประเทศไทย และเป็นต้นแบบขององค์กรอื่นๆ ในการสร้างผืนป่าในอนาคตสืบไป ปตท. จึงร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ทำการวิจัยผืนป่าลักษณะต่างๆ 5 ประเภทคือ ป่าดินแล้ง ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณแล้ง ป่าเบญจพรรณชื้น และป่าดิบชื้น เพื่อจะได้ข้อสรุปที่เป็นรูปธรรมถึงโอกาสที่ป่าซึ่งถูกทำลายไปแล้วนั้น มีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นได้อย่างไร รวมทั้งทัศนคติของคนรอบพื้นที่แปลงปลูกป่าที่เปลี่ยนจากผู้ทำลายป่ามาเป็นผู้สร้างป่านั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

นอกจากนี้การวิจัยยังครอบคลุมถึงระบบนิเวศน์ ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ควบคู่ไปกับการพัฒนาอาชีพเพื่อสร้างแรงจูงใจแก่ชุมชนโดยรอบพื้นที่ป่าให้มีส่วนร่วมในการป้องกันรักษาป่าให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป

ผลจากโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติและโครงการอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องต่อกัน ส่งผลให้ผืนป่าเสื่อมโทรมในอดีตกลับมาเขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่าที่เคยถูกพรากจากถิ่นกำเนิดเพราะไม่อาจทนต่อความแห้งแล้ง กันดาร ก็ได้กลับคืนสู่ผืนป่าอันเป็นบ้านหลังใหญ่ของพวกมัน สิ่งเหล่านี้ล้วนมาจากความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและปตท.ที่เป็นโต้โผใหญ่ในการสร้างโครงการเหล่านี้ขึ้นมา จนประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติและโครงการต่อเนื่องต่างๆโดย ปตท สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www3.pttplc.com/TH/social-activities-environment-reforestation.aspx

เลือกซื้อสินค้า OTOP ได้แล้วในปั๊ม ปตท

ครั้งหนึ่งผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP  ซึ่งเป็นผลผลิตจากภูมิปัญญาชาวบ้าน  ได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานจนทำให้หลายชุมชนต่างตื่นตัวกับนโยบายรัฐ  หลายชุมชนต่างผลิตสินค้า OTOPอย่างมากมาย จนทำให้สินค้า OTOP บางแห่งได้รับการยอมรับสามารถติดปีกฝันไปค้าขายในต่างประเทศ

แต่ก็ยังมีสินค้า OTOP จำนวนมากที่ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่สามารถก้าวไปตามความฝันได้สำเร็จ ส่วนหนึ่งเพราะปัญหาการตลาดเนื่องจากผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้า OTOP ไม่ชำนาญในเรื่องการตลาดทั้งในเรื่องการหาตลาดหรือพัฒนาตลาด

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายองค์กรพยายามที่จะเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้า OTOP ให้สามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน   บ.ปตท.  (จำกัด) มหาชน ก็เป็นหนึ่งในนั้นจึงได้ริเริ่ม โครงการสนับสนุนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP  ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ภายใต้ชื่อ “OTOP by PTT”  เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่การจำหน่ายสินค้าของโครงการ “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์”  หรือที่เรียกว่า โอทอป (OTOP) ให้กับชุมชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงกับชุมชนรอบสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ได้มีอาชีพและรายได้เพิ่มขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างฐานคุณภาพชีวิตที่ดีให้เกิดขึ้นในแต่ละชุมชน

รวมทั้งยังเป็นการสร้างความรักในถิ่นฐานบ้านเกิด และรักษาภูมิปัญญาของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไปตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปตท. เล็งเห็นถึงศักยภาพในการส่งเสริมคนไทยและประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า และยั่งยืนในระบบเศรษฐกิจ ประกอบกับที่ในปี 2558 ประเทศไทยจะต้องก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การเดินทาง ระหว่างประเทศง่ายและมีหลากหลายเชื้อชาติมากขึ้น

ดังนั้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่ได้ร่วมสนับสนุนโครงการ OTOP โดยใช้สถานีบริการน้ำมันของ ปตท. เป็นช่องทางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOPของชุมชนผ่านร้าน “สถานีของฝาก” ที่จัดตั้งขึ้นภายในสถานีบริการน้ำมัน

โครงการนำร่อง ปตท. จำนวน 50 สถานี โดยเลือกสถานีบริการที่มียอดจำหน่ายน้ำมันสูง และอยู่ในทำเลที่ประชาชนสัญจรเชื่อมผ่านไปยังแหล่งท่องเที่ยวและจังหวัดต่างๆ ได้สะดวกทั่วประเทศ ซึ่งข้อดีของโครงการนี้ก็คือ ผู้ซื้อและ ผู้ขายสามารถขายสินค้าระหว่างกันได้โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง และสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ซึ่งเมื่อชุมชนมีความเข้มแข็งก็จะนำไปสู่การพัฒนาสินค้าที่หลากหลายตรงความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศได้ เพราะตัวผลิตภัณฑ์ OTOP เองก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่แล้วคือผลิตและจำหน่ายในแต่ละตำบลของท้องถิ่นนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นงานหัตถกรรม ผ้าทอ ผ้าไหม เครื่องปั้นดินเผา เครื่องประดับแฟชั่น ของใช้ในครัวเรือน อาหาร สมุนไพร และเครื่องดื่ม

ด้านผู้ประกอบการผู้ผลิตสินค้า OTOP  กล่าวว่า การที่ ปั๊มปตท.ได้สร้างโครงการสนับสนุนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP  ในปั๊มน้ำมัน. ถือว่าเป็นเรื่องที่มากเพราะเป็นการให้โอกาสทางการตลาดกับผู้ประกอบการ OTOP ให้สามารถนำสินค้ามาจำหน่ายในปั๊มน้ำมันเพราะสินค้า  OTOP  ในยุคนี้ไม่ได้บูมเหมือนในอดีต

“การที่ปตท.ให้การสนับสนุนสินค้า OTOP ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการชุมชนเพราะ ปตท.มีสาขาทั่วประเทศ  หากสามารถกระจายสินค้าได้ทุกสาขา การแจ้งเกิดของสินค้า OTOP ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก”

โดยในระยะแรกได้มีการเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ไปแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา รวมถึงยังได้จัดกิจกรรมเสริมด้วยการใช้พื้นที่ของสถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาแหลมฉบัง (ขาเข้า) จ.ชลบุรี และสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ จ.ระยอง เปิดเป็นตลาดนัด OTOP ขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มดำเนินการ ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากชุมชนและ ผู้ซื้อว่ามีช่องทางในการพบปะและระบายสินค้ามากขึ้น ซึ่งเมื่อทิศทางการทำงานค่อนข้างดีจึงได้วางแผนที่จะพัฒนาต่อยอดโครงการระยะที่ 2 ให้ขยายผลในวงกว้างมากขึ้นหลังสิ้นปีนี้

ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือชุมชนให้เข้มแข็งและยั่งยืนสืบไปจึงขอเชิญชวนสนับสนุนในการซื้อหาของฝากจาก “โครงการ OTOP by PTT” ทุกครั้งที่เดินทางเพราะจะสุขใจทั้งคนขายคนซื้อและผู้ที่ได้รับเพื่อรอยยิ้มและความสุขของคนไทยในการขับเคลื่อนให้สังคมชุมชนและสิ่งแวดล้อมเติบโตไปเคียงข้างกับความก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจร่วมกัน

ร้านค้า OTOP ลุฟฟาร่า ( Luffala )นวัตกรรมเพื่อความงามจากธรรมชาติ

วันนี้หากคุณต้องการไปร้านค้า OTOP เพื่อช่วยสนับสนุนสินค้าชุมชมคุณไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงร้านค้า OTOP ในจังหวัดนั้นๆอีกต่อไป เมื่อ ปตท. ยกร้านค้า OTOP มาไว้ในปั๊ม ปตท. โดยเป้าหมายการเปิดร้านค้า OTOP ใน ปตท. นั้นเบื้องต้นตั้งเป้าไว้ว่าร้านค้า OTOP ในปั๊มสาขาต่างๆของ ปตท. 100 แห่งทั่วประเทศ

นอกจากการสนับสนุนให้มีร้านค้า OTOP ในปั๊มน้ำมัน ปตท. ใครจะคิดว่าบริษัทพลังงานอย่าง ปตท. จะสามารถร่วมมือกับชุมชนเพื่อสร้างสินค้า OTOP ด้านเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ Luffala ได้อีกด้วย ไหนๆเราก็เกริ่นให้ฟังไปถึงร้านค้า OTOP ในปั๊ม ปตท. ไปแล้ว ถ้าเช่นนั้นเราลองไปเยี่ยมชมร้านค้าOTOP อย่าง Luffala ถึงแหล่งผลิตกันสักหน่อยจะเป็นไรไป

ลุฟฟาร่า ( Luffala )นวัตกรรมเพื่อความงามจากธรรมชาติ

ลุฟฟาร่า ( Luffala) เป็นหนึ่งในโครงการส่งเสริมอาชีพของชุมชน จากความร่วมมือระหว่าง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)และสำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่ต้องการสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วยการสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ชุมชน

เนื่องจากความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ คือ สบู่ผสมใยบวบหรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Luffa จึงเป็นที่มาของชื่อ Luffala หรือลุฟฟาล่า สะท้อนถึงการนำเอาธรรมชาติ มาบวกกับ ความคิดสร้างสรรค์ ออกมาเป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อความงามคุณภาพสูง ให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้ตามความต้องการ ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของลุฟฟาล่า ประกอบไปด้วย สบู่มะขามขัดผิวใยบวบ สบู่เหลวอาบน้ำสูตรมะขามน้ำผึ้ง สบู่ใสสมุนไพรสารสกัดจากเปลือกมังคุด สูตรบำรุงผิวและต้านสิว สบู่ใสสมุนไพรสารสกัดใบบัวบก สูตรบำรุงผิว สบู่ใสสมุนไพร สำหรับผิวหน้า สบู่ใสสมุนไพรสารสกัดจากผักบุ้งทะเล

นอกจากการสนับสนุนชุมชนด้วยผลิตภัณฑ์ Glycerin เกรดพรีเมียมที่ผลิตจาก ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ โดยกลุ่มบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบแล้ว ยังใช้ศักยภาพด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีขององค์กร และพนักงานประสานความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญ จากสำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ในการให้ ความรู้ด้านการทำผลิตภัณฑ์สบู่แก่ชุมชน เพื่อนำเอาภูมิปัญญาและสมุนไพร ธรรมชาติที่หาง่ายในท้องถิ่นจังหวัดระยอง เช่น เปลือกมังคุด ผักบุ้งทะเล มะขาม ใบบัวบก ผสมผสานเป็นสบู่ผสมสารสกัดจากธรรมชาติ Luffala จึงเป็นที่มา ของสบู่ที่มีคุณภาพและดูแลสุขภาพผิวได้อย่างดี ผลิตภัณฑ์ลุฟฟาล่า มีวางจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ ทั่วประเทศ

และแน่นอนสำหรับผู้ที่สนใจในผลิตภัณฑ์ Luffala วันนี้คุณสามารถหาซื้อได้แล้วในร้านค้า OTOP ในปั๊ม ปตท.นั่นเอง อย่าลืมนะครับ หากวันนี้คุณแวะปั๊ม ปตท. ลองมองหาร้านค้า OTOP แล้วซื้อหาผลิตภัณฑ์ Luffala ไปใช้เพื่อพิสูจน์คุณภาพกันดู

ทุนเรียน ม.ปลาย ที่โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง

สำหรับน้องๆที่มองหาทุนเรียน ม.ปลายอยู่ล่ะก็ หนึ่งในทุนที่ไม่ควรพลาดก็คือทุนเรียน ม.ปลาย ที่โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง โดยการสนับสนุนทุนดังกล่าวจากกลุ่มบริษัท ปตท เพื่อส่งเสริมโอกาสให้แก่เยาวชนไทยได้รับทุนเรียน ม.ปลาย ในสถานศึกษาดังกล่าว

มูลนิธิโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง มอบทุนเรียน ม.ปลาย

รายละเอียดทุน ทุนเรียน ม.ปลาย

มูลนิธิโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง ประกาศรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประจำปีการศึกษา 2558

กลุ่ม ปตท. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดการศึกษาสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ อันเป็นพื้นฐานในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ จึงได้ร่วมกันตั้งมูลนิธิโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองขึ้น และให้มูลนิธิดังกล่าวดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ เพื่อจัดการศึกษาให้กับนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในลักษณะของโรงเรียนประจำ ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการจัดการเรียนการสอน และมีอุดมการณ์และเป้าหมายในการพัฒนานักเรียนเช่นเดียวกับโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำของนานาชาติ โดยตั้งชื่อโรงเรียนนี้ว่า “โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง” ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “Rayong Science Academy (RASA)”

ขณะนี้มูลนิธิโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองกำลังดำเนินการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียน โดยมีเป้าหมายเพื่อดำเนินการจัดการเรียนการสอนนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยจะเปิดรับนักเรียนรุ่นแรกในปีการศึกษา 2558 และเนื่องจากโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองเป็นโรงเรียนที่มีวัตถุประสงค์พิเศษดังกล่าวข้างต้น จึงมีความจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมหลายด้านล่วงหน้าให้กับนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าเรียน

มูลนิธิโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองจึงประกาศรับนักเรียนล่วงหน้าเพื่อให้มีเวลาเตรียมความพร้อมดังกล่าวตาม รายละเอียดดังนี้

คุณสมบัติของผู้สมัครทุนเรียน ม.ปลาย ที่โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง

–          กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หรือเทียบเท่า ในปีการศึกษา 2556

–          มีสัญชาติไทยและมีเลขประจำตัวประชาชน

–          ไม่เป็นโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการพักในหอพักของโรงเรียน

–          มีความขยันหมั่นเพียร มีความประพฤติดี และมีบุคลิกภาพเหมาะสม

–           มีความตั้งใจเข้าเรียนในโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองและได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครอง

–          สามารถพักอยู่ในโรงเรียนในลักษณะโรงเรียนประจำได้ และยินดีปฏิบัติตามระเบียบของโรงเรียนในปัจจุบันหรือที่จะได้มีการกำหนดในอนาคต

–          มีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

–          มีคะแนนผลการสอบโอเน็ตชั้น ป. 6 ปีการศึกษา 2554 วิชาคณิตศาสตร์ไม่ต่ำกว่า 73.00 คะแนน และวิชาวิทยาศาสตร์ไม่ต่ำกว่า 55.00 คะแนน

–          มีผลการเรียนวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐานและวิทยาศาสตร์พื้นฐานชั้น ม. 1 และ ม. 2 ภาคเรียนที่ 1 เฉลี่ยตั้งแต่ 3.50 ขึ้นไป และมีผลการเรียนรวมทุกวิชาตั้งแต่ 3.00 ขึ้นไป

–          เป็นนักเรียนที่เคยเข้าร่วมโครงการส่งเสริมและพัฒนาอัจฉริยภาพด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์

–          เป็นนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกโครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

–          เป็นนักเรียนที่ได้รับรางวัลการแข่งขันด้านคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ระดับชาติหรือระดับนานาชาติ

ทุนการศึกษาและเงื่อนไขข้อผูกมัด

–          นักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกจำนวน 72 คน จะได้รับทุนการศึกษาทุนเรียน ม.ปลายทุกคน นักเรียนไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน ค่าบำรุงการศึกษา ค่าที่พักและค่าอาหารแต่อย่างใด

–          ทุนการศึกษาทุนเรียน ม.ปลายตามข้อ 4.1 เป็นทุนให้เปล่าโดยไม่มีข้อผูกมัดแต่อย่างใด เป็นทุนที่เป็นรางวัลให้กับผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของประเทศ ที่จะเป็นกำลังสำคัญและเป็นผู้นำในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต

สำหรับผู้ที่สนใจทุนเรียน ม.ปลาย ที่โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองดังกล่าวสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.pttgroup-rasa.com/rasa.html

เรียนต่อ ม.ปลายสายวิทย์ที่โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองกันดีกว่า

สำหรับน้องๆที่กำลังจะจบ ม.ต้น และมองหาที่เรียนต่อ ม.ปลายสายวิทย์ บางคนอาจจะยังสงสัยว่าแล้วจะไปเรียนต่อที่ไหรดี บางคนก็ลอง search ถาม Google ว่า “เรียนต่อ ม.ปลายสายวิทย์ที่ไหนดี” บางคนก็ไปตั้งกระทู้ถามว่า “ต่อ ม.ปลายสายวิทย์เรียนยากไหม” วันนี้ผมมีสถานที่เรียนต่อ ม.ปลายสายวิทย์มาแนะนำกันครับ โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง (Rayong Science Academy: RASA) ที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของกลุ่มบริษัท ปตท. นั่นเอง

เรียนต่อ ม.ปลายสายวิทย์ที่โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองแตกต่างอย่างไร

ลองนึกถึงหนังเรื่องแฮรี พอตเตอร์ที่นักเรียนทั้งหลายมาอยู่อาศัยในบ้านพักที่มีอาจารย์ประจำแต่ละบ้านคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เปลี่ยนจากนักเรียนเวทย์มนต์ เป็นนักเรียน ม.ปลายสายวิทย์ เปลี่ยนจากอังกฤษมาอยู่ที่ระยองโดยจัดระบบหอพักแบบบ้านพัก แต่ละบ้านมีครอบครัวครู 1 ครอบครัวเป็นผู้ดูแลมีภูมิสถาปัตย์ที่สง่างาม ร่มรื่น สร้างความรู้สึกที่อบอุ่นเชื่อมั่นและภูมิใจ ในการพักอาศัย

มีขนาดเล็กที่มุ่งเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณโดยใช้หลักสูตรที่เน้นการส่งเสริมและพัฒนานักเรียนเป็นรายบุคคล การเรียนการสอนในโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองนั้นจะเป็นการเรียน ม.ปลายสายวิทย์ที่แตกต่างออกไปจากโรงเรียนทั่วไปเพราะจะเน้นไปที่การให้นักเรียนได้ทดลองโดยมีห้องปฏิบัติการทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ล้ำสมัย เปิดให้บริการแก่นักเรียนเพื่อทำงานวิจัยโดยมีครูเป็นผู้กำกับดูแลมากกว่าจะเป็นการท่องจำจากตำรา อีกทั้งยังส่งเสริมการเรียนในระบบนานาชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน ยกเว้นรายวิชาภาษาไทย ประวัติศาสตร์ไทย และศิลปวัฒนธรรมไทย

ทำไมเรียนต่อ ม.ปลายสายวิทย์ที่โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองจึงเป็นลักษณะโรงเรียนประจำ

RASA จัดการศึกษาแบบโรงเรียนประจำเพื่อให้นักเรียนม.ปลายสายวิทย์ได้กิน อยู่ เล่น และเรียนด้วยกัน มีเวลาในการทำกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น สามารถจัดกิจกรรม พัฒนาผู้เรียนได้หลากหลาย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้สามารถพัฒนาอุดมการณ์ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ต่างๆ ของนักเรียนม.ปลายสายวิทย์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

RASA จัดให้นักเรียนอยู่บ้านพักในลักษณะเดียวกับโรงเรียนประจำชั้นนำของนานาชาติและโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย แต่ละบ้านพักประกอบด้วย ส่วนที่เป็นที่พักสำหรับครูประจำบ้านพัก และส่วนที่เป็นที่พักสำหรับนักเรียนม.ปลายสายวิทย์ มีห้องศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง และห้องนันทนาการอยู่ภายในบ้าน แต่ละบ้านจะ มีครอบครัวครูประจำบ้านพัก 1 ครอบครัว และครูบ้านพักอีกจำนวนหนึ่งเป็นผู้ดูแล นักเรียนหญิงและนักเรียนชายแยกพักอยู่คนละบ้าน

ครูบ้านพักเป็นหัวใจสำคัญสำหรับโรงเรียนที่มีจัดการศึกษาแบบโรงเรียนประจำ โดยครูบ้านพักจะทำหน้าที่สอน อบรม ให้คำแนะนำ ตลอดจนดูแลชีวิต ความเป็นอยู่ของนักเรียนประจำทั้งในด้านการศึกษาและการดำรงชีวิต โดยทำหน้าที่เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นเพื่อน ที่คอยให้ความอบอุ่นและให้คำปรึกษาในทุกเรื่อง

เรียนต่อ ม.ปลายสายวิทย์ที่โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองมีค่าใช้จ่ายเท่าไร

มีทุนการศึกษาให้กับนักเรียนทุกคนตามความจำเป็น เพื่อสร้างโอกาสให้กับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์/วิทยาศาสตร์ และผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ที่มีความ สามารถพิเศษ ซึ่งมีกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศให้ได้รับโอกาสมากขึ้น

การคัดเลือกเข้าเรียนต่อ ม.ปลายสายวิทย์ที่โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองทำอย่างไร

มีกระบวนการคัดกรองนักเรียนเข้าเรียนอย่างโปร่งใส เป็นธรรม คัดสรรเฉพาะผู้ที่มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง เข้ามาเป็นนักเรียนของโรงเรียน

สนใจเรียนต่อ ม.ปลายสายวิทย์ที่โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองสมารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่http://www.pttgroup-rasa.com/index.html

เพราะเชื่อว่าความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคือกุญแจสำคัญในการพัฒนาประทศ

“เราเชื่อว่าความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะสร้างอนาคตใหม่” ประโยคทิ้งทายดังกล่าวจากโฆษณาของ ปตท. เป็นการแสดงวิสัยทัศน์ในฐานะองค์กรที่เป็นตัวแทนของประเทศในการก้าวสู่เวทีระดับโลกที่เห็นว่าทุกๆประเทศที่พัฒนาแล้วในระดับโลกล้วนให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเพื่อตอบรับแนวความคิดในการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศ ปตท. จึงมีความมุ่งมั่นที่จะริเริ่ม “โครงการจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาและโรงเรียนวิทยาศาสตร์ กลุ่ม ปตท. พื้นที่ภาคตะวันออก” เรามาลองทำความรู้จักกับโครงการดังกล่าวของ ปตท. ที่จะเป็นหนึ่งในฟันเฟืองในการขับเคลื่อนความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับประเทศในอนาคตกันดีกว่า

สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยอง Rayong Institue of Science and Technology – RAIST

“ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยนวัตกรรมมุ่งเน้นงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน”

วิสัยทัศน์ Vision

เป็นสถาบันอุดมศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นงานวิจัยชั้นแนวหน้า เพื่อสร้างบุคลากรที่ดีเลิศในระดับโลกทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้สามารถสร้างและใช้องค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่เพื่อประโยชน์ในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

พันธกิจ Mission

• สร้างสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำระดับโลก
• สร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่รับผิดชอบต่อวิชาชีพ
• ส่งเสริม สนับสนุนการศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อเป็นองค์ความรู้ในการพัฒนาประเทศ
• เป็นสถาบันที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับคนไทยเพื่อสร้างความเจริญอย่างยั่งยืนสู่ประเทศ

เป้าหมายการดำเนินการสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยอง (RA IST)

ปี 2558 เป็นสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำเปิดการเรียนการสอนรุ่นที่ 1

ปี 2563 เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับประเทศ

ปี 2568 เป็น 1 ใน 10 ของมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับภูมิภาคอาเซียน

ปี 2578 เป็น 1 ใน 50 ของมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับโลก

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “โครงการจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาและโรงเรียนวิทยาศาสตร์ กลุ่ม ปตท. พื้นที่ภาคตะวันออก” สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

–           โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ http://www.pttgroup-rasa.com/index.html

–           สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยอง ดาวน์โหลดเอกสารได้ที่ http://www.pttplc.com/th/Documents/Sustainability%20Highlight/Artwork_RAIST%20Profile.pdf

ราคาเครื่องปริ้นโดนๆ กับความสามารถโดนใจแชร์แล้วปริ้นในยุค Social Network

Get Print on Tap แค่แตะ...แล้วพิมพ์ ความสามารถสุดเจ๋งเข้ากับยุค Social ของเครื่องเลเซอร์ ปริ้นเตอร์ จากซัมซุง เปลี่ยนวิธีการสั่งพิมพ์แบบเดิมๆ ให้ง่ายยิ่งขึ้น ซัมซุงเลเซอร์พริ้นเตอร์ ง่ายๆ แค่แตะ ก็พิมพ์เอกสารจากมือถือได้ทันที

เครื่องปริ้น all in one Samsung Laser Printer ที่ใช้งานผ่านฟังก์ชั่นหลักตัวใหม่ NFC รวบรวมความง่ายๆ สะดวกสบาย ไว้ครบถ้วน สรุปง่ายๆ คือ NFC (NEAR FIELD COMMUNICATION) คือเทคโนโลยี ที่ทำให้เราสามารถส่งผ่านข้อมูลได้ผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สาย

จุดเด่นของ NFC PRINTER

✓ EASY PRINTING สั่งพิมพ์ง่ายๆ ผ่านสมาร์ทโฟน แค่แตะ...แล้วพิมพ์

✓ EASY CONNECT เชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยเพียงไม่กี่ขั้นตอน

✓ EASY TRANSFER สามารถสั่งพิมพ์ผ่าน Google Cloud ได้จากทุกที่

✓ EASY SHARE สั่งพิมพ์แบบไร้สายแล้วแชร์ได้ทันที

พิเศษวันนี้ กับราคาเครื่องปริ้นโดนใจ Samsung LASER PRINTER GET MORE  

ยิ่งซื้อยิ่งได้เมื่อซื้อซัมซุงเลเซอร์ ปริ้นเตอร์  และโทนเนอร์ วันนี้รับฟรีของรางวัลมากมาย

พร้อมสะสมคะแนนเพื่อแลกของรางวัล รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม - 31 ธันวาคม 2557

อ่านรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ Samsung Get more

Asean Energy Company

เมื่อฉบับก่อนได้กล่าวถึงการรับมือ AEC  ด้านพลังงาน เพื่อให้คุณผู้อ่านทุกท่านได้มองเห็นแนวทางการรับมือของหน่วยงานต่างๆได้อย่างเป็นรูปธรรมทั้งการ ปตท.และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต(กฟผ)

                              

สำหรับฉบับนี้เราจะโฟกัสไปที่ ปตท ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรหลักที่เป็น Asean Energy Company ซึ่งมีภารกิจหลักๆ 2 ประการเพื่อความยั่งยืนด้านพลังงานของชาติได้แก่

1.    ภารกิจในการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ

2.    ภารกิจในการก้าวไปเป็นองค์กรชั้นนำในระดับโลก โดยอาศัยการพัฒนาด้าน เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกับสร้างความยั่งยืนขององค์กรด้วยการส่งเสริมองค์ความรู้อย่างมีนวัตกรรม

สำหรับการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน คือภารกิจประการที่ 1 ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของ ปตท.นับตั้งแต่ การเป็นรัฐวิสาหกิจในฐานะการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ซึ่งต้องดูแลรับผิดชอบในด้านการจัดหาพลังงานในรูปแบบต่างๆ ทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ฯลฯ

การขยายบทบาทออกไปสู่การเป็นผู้สำรวจและผลิตในแหล่งพลังงานต่างๆ  นอกจากนี้ยังพัฒนาการลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการสำรวจ จัดหา และสำรองพลังงาน เพื่อให้เพียงพอกับปริมาณความต้องการใช้ในประเทศทุกสถานการณ์

ส่วนภารกิจที่ 2 คือการก้าวไปเป็นองค์กรชั้นนำในระดับโลกถือเป็นภารกิจที่สำคัญอีกประการหนึ่ง และกลุ่ม ปตท. ได้กำหนดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ต่อเนื่อง เพื่อที่จะขับเคลื่อนองค์กรพลังงานของไทยให้ก้าวออกไปมีบทบาททั้งในเวทีระดับภูมิภาค โดยเฉพาะการเปิด AEC  ทำให้ ปตท เป็นAsean Energy Companyและต้องเป็นที่ยอมรับในระดับโลก

ภายใต้ยุทธศาสตร์สำคัญ  BIG-LONG-STRONG  ซึ่งกลุ่ม ปตท.ขยายบทบาทจนกลายเป็นองค์กรที่มีขนาดที่ใหญ่(BIG)จนมีศักยภาพในการแข่งที่เหมาะสมในระดับนานาชาติ มีความต่อเนื่องการทำเชื่อมโยงธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ ครบวงจรตลอดทั้งห่วงโซ่ธุรกิจ เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว(LONG)  และมีความเข้มแข้งด้วยระบบ บริหารจัดการที่ดีเลิศ มีการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างองค์ความรู้ของตัวเอง(STRONG)

ทำให้ กลุ่ม ปตท. สามารถก้าวขึ้นไปเป็นเป็นองค์กรชั้นนำติดอันดับที่ 81 ใน Fortune 100 ในการจัดอับดับของนิตยสารธุรกิจชั้นนำของโลก

ขณะเดียวกัน ยังสามารถสร้างการยอมรับในระดับนานาชาติได้ว่าเป็นหนึ่งในบริษัทน้ำมันชั้นนำที่สามารถผลิตน้ำมันคุณภาพจัดส่งผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น,  น้ำมันเครื่องบิน ฯลฯ ออกไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม พม่า  จีน และในอีกหลายประเทศเพื่อแสดงศักยภาพในฐานะที่เป็นAsean Energy Company

กลุ่ม ปตท. ยังกำหนดยุทธศาสตร์เพิ่มเติม เพื่อให้เกิดการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนนั่นคือ ย้ายจากการพึ่งพาฐานของทรัพยากร มาอยู่บนฐานของเทคโนโลยี ด้วยยุทธศาสตร์ “TAGNOC” (Technologically Advanced and Green National Oil Company) ที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรมุ่งสู่การเป็นบริษัทพลังงานไทยข้ามชาติชั้นนำที่มีความยั่งยืนเป็นองค์กร 100 ปี

ยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะนำกลุ่ม ปตท. เดินหน้าสู่ความสำเร็จในการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของประเทศ และการเติบโตอย่างยั่งยืนโดย ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง ‘TA’ หรือ ‘Technologically Advanced’ และ  ‘G’ หรือ Green Roadmap Technology  ใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างความสามารถและศักยภาพของ ปตท. ในการทำธุรกิจภายใต้กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ท้ายที่สุดคือ ยุทธศาสตร์ที่มุ่งพัฒนาคน เร่งสร้าง-เสริมองค์ความรู้ทั้งภายในและภายนอก ทั้งกลุ่มเยาวชน ผู้นำความคิด และ พนักงานภายในองค์กร  ภายใต้โครงการ “3 ประสานแห่งการเรียนรู้  สู่ความยั่งยืน” ซึ่ง ประกอบด้วย

1.    โครงการจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยอง (RAyong Institute of Science & Technology หรือ RAIST)  เน้นหลักสูตรด้านวิศวกรรม ตั้งแต่ปริญญาตรีถึงปริญญาเอก  และ โรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง (RAyong Science Academy หรือ RASA)  หลักสูตรระดับมัธยมปลาย  สำหรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์

2. โครงการสถาบันวิทยาการพลังงาน (Thailand Energy Academy หรือ TEA) โครงการที่ กลุ่ม ปตท. สนับสนุน กระทรวงพลังงาน พัฒนาหลักสูตรอบรมร่วมเพื่อให้ผู้นำทางความคิดจากองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชน นักวิชาการ และประชาชน ให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องพลังงาน เพื่อนำไปสู่ การใช้พลังงานและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

3. โครงการจัดตั้ง PTT Leadership and Learning Institute (PLLI)  เพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีศักยภาพสูงสุด โดยมุ่งพัฒนาภาวะผู้นำ (Leadership Development)และส่งเสริมให้เกิด Life-Long Learning เพื่อเตรียมความพร้อม ด้านบุคลากรให้กลุ่ม  ปตท. ในระยะยาว

กลุ่ม  ปตท.ตั้งเป้าที่จะใช้ทั้ง 3 โครงการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกและเตรียมความพร้อมก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( AEC)และเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับหรับรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีและพลังงาน  บนพื้นฐานความเชื่อมั่นว่า องค์ความรู้ คือหัวใจสำคัญที่จะเป็นรากฐานสู่การพัฒนาที่จะสร้างความได้เปรียบให้กับประเทศและองค์กรอย่างยั่งยืน

ความยิ่งใหญ่และความสำเร็จของ ปตท ในวันนี้  ดูแล้วน่าจะยิ่งใหญ่กว่าการเป็น  Asean Energy Company เพราะปตท.กำลังมุ่งสู่การเป็นองค์กรระดับโลก